แอลอาร์จินีน แอล-อาร์จินีน (L-Arginine)
แอล-อาร์จินีน (L-Arginine) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ไวอากร้าธรรมชาติ"
แอลอาร์จินีน เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ถือว่าเป็นโมเลกุลมหัศจรรย์ มีคุณค่าต่อร่างกายมหาศาล เพราะแอลอาร์จินีน จะกระตุ้นร่างกายผลิตไนตริกออกไซด์(Nitric Oxide) ซึ่งไนตริกออกไซด์ จะช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือด และกระตุ้นการหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เป็นสิ่งสำคัญในการคงความเป็นหนุ่มสาวและชลอความชราให้กับเรา
แอลอาร์จินิน เป็นกรดอะมิโนที่ได้จากอาหาร ที่เป็นโปรตีนธรรมชาติเช่น เนื้อสัตว์ที่มีสีแดง ถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ ไข่ นม เนื้อสัตว์ที่มีแอลอาร์จินินมากที่สุดคือ เนื้อปลาแซลมอน
ไนตริกออกไซด์ (Nitric Oxide) คืออะไร
ไนตริกออกไซด์ ได้ชื่อว่าเป็น “วีรบุรุษของร่างกาย" หรือ The New Hero of Human Biology ถูกค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ 3 ท่าน คือ Louis J.lgnarro,Robert Furchgot and Ferid Murad ได้ค้นพบคุณประโยชน์ของไนตริกออก ไซด์จนได้รับรางวัลโนเบล เมื่อปี 1998 นี้เอง
โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) คืออะไร
โกรทฮอร์โมนคือ ฮอร์โมนที่ผลิตมาจากต่อมใต้สมอง เพื่อใช้ในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมร่างกาย ไปตลอดชีวิต แต่จะผลิตน้อยลงเรื่อยๆ หลังอายุ 23 ปี นั่นคือ ความแก่ชราที่จะมาเยือนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง คนเราเมื่อแก่ชรา ทุกระบบของร่างกายก็เริ่มเสื่อม รวมทั้งสมรรถภาพทางเพศด้วย ในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรป ได้นำโกรทฮอร์โมนมาใช้ในวงการแพทย์ และสถาบันต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย ในการที่ช่วยให้คนเราย้อนวัยกลับไปเป็นหนุ่มสาวได้อีกครั้ง จากผลการศึกษาพบว่าแอลอาร์จินินสามารถเพิ่มโกรทฮอร์โมนได้ถึง 300%
ประโยชน์ของแอลอาร์จินิน ในแง่ของการรักษาโรค ED หรือโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ กลไกการออกฤทธิ์ของแอลอาร์จินิน ให้ผลเช่นเดียวกับยา ไวอากร้า แต่วิธีการของแอลอาร์จินินจะทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวอย่างเป็นธรรมชาติ โดยแอลอาร์จินิน ที่กินเข้าไป ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นไนตริกออกไซด์ มีผลให้หลอดเลือดแดงที่อยู่บริเวณอวัยวะเพศเกิดการขยายตัว ส่งผลให้มีการไหลเวียนของเลือดที่อวัยวะเพศมากขึ้น และคั่งค้างอยู่ได้นานขึ้นอีกด้วย จึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องเซ็กส์ในคุณผู้ชายได้อย่างยอดเยี่ยม สมกับที่นักวิทยาศาสตร์บางคนให้สมญานามของแอลอาร์จินินว่า “ไวอากร้าธรรมชาติ”
แอลอาร์จินีน มีข้อดีกว่ายาไวอากร้าตรงที ถ้ากินเป็นประจำแล้วก็สามารถที่จะปฎิบัติการรักได้ทันทีที่ได้รับการกระตุ้นทางเพศ และยังมีฤทธิ์อยู่ได้ในระยะหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะหยุดรับประทานแอลอาร์จินินไปแล้ว ทั้งยังมีความปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงใดๆเหมือนยาไวอากร้า และยังช่วยให้สุขภาพในหลายๆ ระบบดีขึ้นอีกด้วย
แต่แอลอาร์จินินจะมีข้อด้อยกว่ายาไวอากร้าเล็กน้อยตรงที่ ครั้งแรกที่เริ่มกินแอลอาร์จินีน ต้องกินอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายได้เยียวยารักษาตัวเอง เป็นระยะเวลา 1-3 สัปดาห์ แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคน จึงจะเห็นผลได้ไม่แพ้ไวอากร้าเลยแม้แต่น้อยแต่ผลของการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศก็อาจจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุ หรือระดับของอาการเซ็กส์เสื่อมที่เกิดขึ้น มีตัวอย่างผลการทดลองจากชาย 21 คนที่เป็นโรคอีดีระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง พบว่า 88.9% มีการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้นานขึ้น และ 78% มีความรู้สึกทางเพศที่ดีขึ้นด้วย
ประโยชน์ของแอลอาร์จินินในด้านอื่นๆ
- สารไนตริกออกไซด์ที่ได้ ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้นความดันโลหิตก็จะลดลง กล้ามเนื้อทั่วร่างกายก็จะได้รับออกซิเจนมากขึ้นด้วย
- ช่วยลดความเครียด ทำให้นอนหลับสบาย และมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้น
- ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ร่างกายกระฉับกระเฉง ดูอ่อนกว่าวัย ออกกำลังกายได้นานขึ้น
- ช่วยเพิ่มความรู้สึกทางเพศ เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มจำนวนของอสุจิ ทำให้อสุจิแข็งแรง และเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น
- ส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหลั่งฮอร์โมนต่างๆ
- ช่วยเยียวยา รักษาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
คุณสมบัติของแอลอาร์จินิน เป็นคุณสมบัติที่เหมาะกับชื่อ "ไวอากร้าธรรมชาติ" จริงๆ ครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีโมเลกุลมหัศจรรย์ขนาดนี้ ทีนี้แอลอาร์จินินเป็นอาหาร เสริมครับไม่ใช่ยา ต้องรอร่างกายฟื้นตัวก่อนครับในการเริ่มกินครั้งแรก จากการที่ได้ทดสอบกับหลายๆ คนที่กินผลิตภัฯฑ์เสริมอาหารที่มี แอลอาร์จินีน ด้วย จะมีการฟื้นตัวของอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจาก แอลอาร์จินีน จะทำให้ประสาทส่วนปลายไวต่อคว่ทรู้สึกได้ง่ายยิ่งขึ้น
และปัจจุบันแอลอาร์จินีน ได้นำไปเป็นส่วนผสมร่วมกับสมุนไพรอื่นเช่น โสม ตงกัตอาลี ตังถั่งเฉ้า กระชายดำ ซึ่งจะสามารถเพิ่มพลังและสรรพคุณของ แอลอาร์จินีน ให้เห็นผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ดังนั้นหากท่านผู้อ่านต้องการผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ผลิตจาก ส่วนผสมของ แอลอาร์จินิน ที่มีสรรพคุณข้างต้น สามารถศึกษาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ข้างล่างนี้ได้ครับ